เคล็ดลับการตลาด

กระเป๋าผ้า 600 D คืออะไร ?

กระเป๋าผ้า 600 D คืออะไร

ผ้า 600 D ผ้า 600 D เป็นเนื้อผ้าที่ผลิตจาก ใยโพลีเอสเสตอร์ ( Polyester) ซึ่งเป็นเส้นใยสังเคราะห์ 100 % เป็นเส้นใย ที่ผลิตจาก ปฏิกิริยา Polymerization ของ Dihydric Alcohol และ Dicarboxylic Acid และรวมกับสารเคมีอื่น ๆ ในกระบวนการผลิต จนได้เป็นโพลีเอสเตอร์ ที่ทำเป็นเส้นใยในการผลิตขั้นต้น จากนั้น นำมาผ่านแว่น Spinnerette เส้นใยที่กดออก มากระทบอากาศก็จะแข็งตัว จากนั้น ก็นำไปดึงยืด เพื่อให้เส้นใยมีความเหนียวแข็งแรง เราจะพบเห็นผ้า 600 D จากรูปแบบกระเป๋าผ้าเช่น เป็นวัสดุผลิตกระเป๋าเป้ กระเป๋าผ้าสะพายหลัง อย่างกระเป๋านักเรียน โดยโรงเรียนมักเลือกผ้าชนิดนี้มาใช้เพราะสามารถรับน้ำหนักได้ดี มีสีให้เลือกจำนวนมาก อีกทั้งการใช้ผ้า 600D ทำกระเป๋าผ้าแทนผ้าดิบหรือผ้าร่มเพราะว่า เนื้อผ้า 600 D มีเนื้อผ้าที่แน่นและทำให้กระเป๋าอยู่ทรง

กระเป๋าผ้ายีนส์ ( Jeans ) คืออะไร ?

กระเป๋าผ้ายีนส์ ( Jeans ) คืออะไร ?

ผ้ายีนส์ เป็นผ้าทอ จากฝ้ายชนิดหนึ่ง ไม่ได้อ่อนนุ่ม เหมือนผ้าฝ้ายทั่วไป มีความแข็งและความกระด้าง มากกว่าผ้าฝ้ายชนิดอื่น โดยคุณสมบัติหลักของผ้ายีนส์ คือ ความแข็งแรง คงทน เหนียวเป็นพิเศษ และสามารถย้อมสีได้ดี การผลิตกระเป๋าจากผ้ายีนส์ เราจะพิจารณาจาก สีของเนื้อผ้า , ความหนา และลายผ้า และนำมาสร้างดีไซน์ของกระเป๋า สำหรับความหนาที่เหมาะสม ที่สุด เราจะนิยมใช้ 40 – 60 ออนซ์ เพื่อไม่ให้กระเป๋าแข็งหรืออ่อนเกินไป

กระเป๋าผ้ากระสอบ ( Jute) คืออะไร ?

กระเป๋าผ้ากระสอบ ( Jute) คืออะไร ?

เนื้อผ้ากระสอบ ผลิตมาจากใยปอกระเจา ซึ่งเป็นเส้นใยธรรมชาติ สำหรับกระเป๋าผ้านั้น จะใช้ผ้ากระสอบที่มี คุณสมบัติ ป้องกันความชื้นอยู่แล้ว และใช้การถักทอ ค่อนข้างถี่และมีความหนา เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ทนทาน แต่ขึ้นอยู่กับดีไซน์ด้วย เช่น มีการเย็บผ้า cotton , ผ้าแคนวาส ร่วมด้วย

กระเป๋าผ้าแคนวาส คืออะไร?

กระเป๋าผ้าแคนวาส คืออะไร?

ผ้าแคนวาส ผ้ายอดนิยมที่ถูกนำมาใช้ผลิตกระเป๋าผ้า สำหรับกระเป๋าที่ผลิตมาจาก ผ้าแคนวาส จะมีความแข็งแรง ทนทาน การถักทอผ้าละเอียด และมีความหนาเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติ ในการย้อมติดสีได้ง่ายด้วย ซึ่งในบทความนี้เราจะมารู้จักที่มา และวิธีดูแลรักษากระเป๋าแคนวาสกัน

4 วิธี การดูแลรักษากระเป๋าผ้า ให้อยู่กับเราไปนานๆ

4 วิธี การดูแลรักษากระเป๋าผ้า ให้อยู่กับเราไปนานๆ

กระเป๋าผ้า เป็นกระเป๋าที่เน้นการใช้งาน เป็นกระเป๋าอเนกประสงค์ สามารถใช้ได้ในหลายโอกาส มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับดีไซน์ และกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงจุดประสงค์การใช้งาน ถึงแม้ว่า กระเป๋าผ้าจะเป็นกระเป๋าที่เน้นการใช้งาน ดูแลรักษาน้อยกว่า กระเป๋าประเภทอื่น แต่การเรียนรู้วิธีอย่างถูกวิธีก็จะทำให้กระเป๋าอยู่กับเราไปได้นานขึ้น

4 เหตุผลที่ต้องมีหมอนอิงไว้ในบ้าน

4 เทคนิคใช้หมอนอิงแต่งโซฟาตัวโปรดให้ดูดีมีสไตล์

หากคุณเบื่อบรรยากาศเดิม ๆ ในห้องนั่งเล่นแล้ว แต่ก็ยังอยากให้มีโซฟาตัวโปรด โต๊ะตัวเดิมวางไว้อยู่ ไม่ยากเลย คุณสามารถเปลี่ยนบรรยากาศห้องนั่งเล่นด้วยการแต่งโซฟาตัวโปรดด้วยหมอนอิงให้ดูเก๋ไก๋ แถมยังเปลี่ยนบรรยากาศไปได้เรื่อย ๆ สำหรับคนที่เบื่อง่ายด้วย

How To Wash Stuffed Animals 940x627

วิธีทำความสะอาดตุ๊กตาตัวโปรด

เคยไหมที่คุณจำตุ๊กตาน่ากอดน่าฟัดตัวนั้นไม่ได้ เพราะความมอมแมม ไม่สดใสแถมเมินหน้าหนีแอบยี้เบาๆ อีกต่างหาก ไม่ว่าตุ๊กตาตัวนั้นจะเป็นของคุณเอง หรือของคุณลูก ขอให้คุณวางมือจากทุกสิ่งแล้วรีบนำวิธีซักตุ๊กตาตัวใหญ่ของเราไปใช้ด่วน มิเช่นนั้นตุ๊กตาน่ารักๆ อาจกลายเป็นตุ๊กตาพังไร้ค่า จนต้องนำไปทิ้งถังขยะในที่สุด

4 เหตุผลที่ต้องมีหมอนอิงไว้ในบ้าน

4 เหตุผลที่ต้องมีหมอนอิงไว้ในบ้าน

หากพูดถึงหมอนอิงหลายคนก็คงจะเคยเห็นกันเป็นอย่างดี เนื่องจากว่าหมอนชนิดนี้เหมาะสมกับการนอนพักผ่อนหรือนั่งพักผ่อนภายในบ้านเป็นอย่างยิ่ง จุดเด่นของหมอนแบบนี้ก็คือขนาดกะทัดรัด จัดเก็บง่าย บางคนอาจจะใช้หนุนนอนกลางวันก็ได้เช่นกัน สำหรับใครที่ต้องการเติมเต็มความงดงามให้กับบ้านก็สามารถใช้หมอนนี้เป็นตัวช่วยได้ โดย 4 เหตุผลที่ต้องมีหมอนประเภทนี้ในบ้านมีดังต่อไปนี้

9

สร้างกลุ่มลูกค้า เพื่อทำให้คนรู้จักแบรนด์

ในโลกดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูงนี้ ลองนึกภาพว่ามีลูกค้าที่เลือกที่จะโต้ตอบกับแบรนด์ของคุณมากกว่าการซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ พวกเขาไม่เพียง แต่มีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณ แต่ยังเชื่อมต่อกับแบรนด์ของคุณในระดับบุคคลและเป็นส่วนตัว ลูกค้าของคุณมีโอกาสการซื้อมากกว่าหนึ่งรอบ ไม่ว่าจะเป็นทางโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ และแพลตฟอร์มอื่นๆ นี่ไม่ใช่เพียงเพราะความแข็งแกร่งของเนื้อหาแบรนด์ของคุณ แต่ยังเป็นสัญญาณของชุมชนแบรนด์ที่ภักดีอีกด้วย ฐานลูกค้าหรือ Brand community คืออะไร หากพูดถึงกลุ่มหรือฐานลูกค้า หลายคนคงจะนึกถึงแฟนเพจหรือ Instagram ของบริษัทแต่ฐานลูกค้าในบทความนี้เราจะเจาะลึกไปมากกว่านั้น ชุมชนของแบรนด์ในบทความนี้จะหมายถึงกลุ่มบนเฟสบุ๊คหรือคลับบน Clubhouse “สถานที่” ซึ่งแลกเปลี่ยนความรู้สึก ความรู้ อุดมคติต่างๆ ทั้งในเรื่องของสินค้าและการใช้ชีวิต ราวกับว่าแบรนด์ของเราและลูกค้าเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน  เราเป็นผลิตสินค้าสิ่งทอและ OEM ตามแบบที่ลูกค้าต้องการบ่อยครั้งเรามักจะพบกับคำถามที่ต้องการการชี้แนะ เช่นหากต้องการผลิตหมอนรองคอเพื่อใช้สำหรับการทำงาน Work From Home ควรจะเลือกเนื้อผ้าแบบไหนดี คำถามเหล่านี้ไม่มีถูกหรือผิดแต่มักจะเป็นคำถามที่ผู้ถามต้องการ ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญให้ค่อยๆอธิบายว่าวัตถุดิบแต่ละแบบมีจุดเด่นแบบไหน และสุดท้ายเมื่อลูกค้าทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้วมักจะเป็นผู้ตัดสินใจอย่างมั่นใจ การที่แบรนด์มี Community สำหรับแลกเปลี่ยนความรู้ พนักงานของแบรนด์นั้นไม่จำเป็นจำต้องคอยเป็นผู้ตอบคำถามเสมอ และเช่นเดียวกันลูกค้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้ถามคำถามเสมอ ลูกค้าที่เคยใช้บริการอาจจะให้คำแนะนำกับผู้ที่เข้ามาใหม่ได้จากประสบการณ์และแบรนด์เองก็อาจจะคอยสอบถามหรือทำบทวิจัยก่อนจะออกสินค้าบางชิ้นขึ้นมา ทำไมต้องลงทุนสร้าง คอมมูนิวตี้ Brand community การโฆษณาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะเข้าถึงและสื่อสารกับผู้บริโภคอีกต่อไป เนื่องจากสิ่งนี้จะสร้างความสัมพันธ์ในการขายสินค้าเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าลูกค้าของคุณจะตัดสินใจซื้อจากเพียงแค่ข้อเสนอ ส่วนลด และราคา โดยเบี่ยงเบนจากความภักดีของแบรนด์ที่คุณต้องการพัฒนาจริงๆ  การรักษา

8

“ตัวตนของแบรนด์” จำเป็นต้องมีด้วยหรือ ?

เกริ่นนำ ในโลกของทางเลือกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผลิตภัณฑ์และบริการต่างมีเอกลักษณ์น้อยลง แบรนด์จึงต้องหาวิธีใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค คุณจะสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบที่ไม่มีคู่แข่งมาแทนที่ และดึงดูดผู้คนให้ร่วมเดินทางไปกับธุรกิจของคุณได้อย่างไร บางคนอาจกล่าวว่าการบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม ผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า ความสะดวก ราคาที่ต่ำกว่า  หรือความพิเศษเฉพาะตัว แต่คุณจะทราบหรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่กำหนด ‘เอกลักษณ์ของแบรนด์’ หรือ ตัวตนของแบรนด์ ให้ลูกค้าประทับใจอยู่ตลอดเวลา การรับรู้ของผู้บริโภค ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคไม่ได้เพียงแค่ซื้อสินค้าหรือบริการอีกต่อไป พวกเขาซื้อแบรนด์ พวกเขาเลือกที่จะเชื่อ ไว้วางใจ และให้คุณค่ากับแบรนด์ ดังนั้นจึงเกิดสิ่งที่เรียกว่าความภักดีต่อแบรนด์ การรับรู้ถึงความเหนือกว่าของแบรนด์ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสำเร็จ ของแบรนด์ เราขอยกตัวอย่างโควทจากคุณ L. Speisser กล่าวว่า “แบรนด์ที่ยอดเยี่ยมก็เหมือนเพื่อน – คุณพบพวกเขาจำนวนมากทุกวัน แต่คุณจำเฉพาะคนที่คุณรักจริงๆ เท่านั้น” ความแตกต่าง ธุรกิจจำนวนมากสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ผ่าน Data การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การพัฒนาเชิงสินค้าแบบสร้างสรรค์ และกระบวนการจัดการ แต่อย่างไรก็ตามมีบางแบรนด์บางกลุ่มเพียงแค่ขายสินค้าหรือบริการและไม่มีจุดเด่นของแบรนด์ แต่กลับสร้างมันขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวและประสบความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะทำเองหรือจ้างนักวางกลยุทธ์แบรนด์มาช่วย สิ่งสำคัญคือ ความแตกต่าง ความแตกต่างช่วยสร้างการรับรู้และประสบการณ์ที่ดีให้แก่แบรนด์ของคุณ รูปแบบการซื้อสินค้าหรือความประทับใจจากการซื้อสินค้า จะช่วยกำหนดรูปแบบการรับรู้ การรับรู้อาจเป็นไปในทางบวกหรือทางลบ ดังนั้นธุรกิจต่างๆ จึงต้องระมัดระวัง เนื่องจากต้องใช้เวลามากในการเปลี่ยนแปลงการรับรู้เชิงลบให้เป็นบวก ลูกค้าที่มีความสุขจะแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขากับสังคมพวกเขา ส่งเสริมธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้นในทางอ้อม สิ่งเหล่านี้ถือว่ามีค่าต่อแบรนด์อย่างมาก